Haematococcus pluvialis
Haematococcus pluvialis
ฮีมาโตคอกคัส พลูวิเอลิส
คือสาหร่ายเซลล์เดียวสีเขียวขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ในน้ำจืด จัดอยู่ในคลาส Chlorophyceae อันดับ Volvocales และวงศ์ Haematococcaceae สามารถพบได้ทั่วไปและกระจายอยู่ทั่วโลกในหลายสภาพแวดล้อม
เนื่องจากมีความสามารถในการสร้างถุงซิสต์ (encyst) สาหร่ายชนิดนี้จึงสามารถปรับตัวและเอาชีวิตรอดได้ดีในสภาวะที่รุนแรง เช่น การได้รับรังสี ความร้อน และความเข้มข้นของเกลือที่สูงเกินไป
สาหร่ายชนิดนี้อุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญมากมาย เช่น โปรตีน, คาร์โบไฮเดรต, ไขมัน และแคโรทีนอยด์ แต่ที่เด่นชัดที่สุดคือเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลิอิสระ แอสตาแซนทิน (astaxanthin) ตามธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดเมื่อเทียบกับจุลินทรีย์ชนิดอื่นๆ มันจึงมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบสูง
Haematococcus pluvialis มีวงจรชีวิตที่โดดเด่นแบ่งเป็น 2 ระยะ
- ระยะสีเขียว (Green Stage): เป็นระยะที่สาหร่ายเคลื่อนที่ได้ มีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 8–30 ไมโครเมตร (µm) - ระยะสีแดง (Red Stage): เป็นระยะที่สาหร่ายเปลี่ยนเป็นเซลล์ที่อยู่นิ่ง หรือที่เรียกว่าถุงซิสต์สีแดง (haematocyst) ขนาดของเซลล์ในระยะนี้จะใหญ่ขึ้น โดยสามารถมีเส้นผ่านศูนย์กลางได้ถึง 20–50 ไมโครเมตร สาหร่ายจะสร้างและสะสมสาร แอสตาแซนทิน (astaxanthin) ซึ่งเป็นสารแคโรทีนอยด์ที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง ซึ่งในระยะนี้เองที่ผู้เชี่ยวชาญของเราจะทำให้เกิดขึ้น และใช้ความเชี่ยวชาญในการเก็บเกี่ยวสาร แอสตาแซนทิน (astaxanthin)
ขบวนการพิเศษเพื่อให้ได้สารแอสตาแซนทิน(Astaxanthin)
ระยะสีแดง หรือ ถุงซิสต์สีแดง (haematocyst) คือช่วงเวลาที่สาหร่าย Haematococcus pluvialis เข้าสู่ภาวะจำศีล เพื่อเอาตัวรอดจากสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น การขาดแคลนสารอาหาร, แสงแดดที่แรงเกินไป, หรือความเค็มที่เพิ่มขึ้น ในช่วงเวลานี้ สาหร่ายจะเปลี่ยนจากเซลล์สีเขียวที่เคลื่อนที่ได้ มาเป็นเซลล์ทรงกลมสีแดงที่อยู่นิ่ง และเริ่มสร้างสาร แอสตาแซนทิน ขึ้นมาสะสมไว้ในปริมาณมหาศาล โดยสารแอสตาแซนทินที่สะสมนี้จะทำหน้าที่สำคัญ 2 อย่าง:
- ป้องกันเซลล์จากความเครียด: แอสตาแซนทินเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยปกป้องดีเอ็นเอและส่วนประกอบอื่น ๆ ของเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากรังสียูวีและความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน
- ช่วยให้รอดชีวิตในระยะยาว: การสะสมแอสตาแซนทินทำให้สาหร่ายสามารถทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายได้นานขึ้น เมื่อสภาพแวดล้อมกลับมาเป็นปกติ ถุงซิสต์สีแดงก็จะกลับมาเป็นเซลล์สีเขียวที่เคลื่อนที่ได้อีกครั้ง ดังนั้น เพื่อให้ได้สารแอสตาแซนทินผู้เชี่ยวชาญจะทำการกระตุ้นให้มันอยู่ในระยะสีแดงและเก็บเกี่ยวแอสตาแซนทินในระยะนี้
- ป้องกันเซลล์จากความเครียด: แอสตาแซนทินเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยปกป้องดีเอ็นเอและส่วนประกอบอื่น ๆ ของเซลล์จากความเสียหายที่เกิดจากรังสียูวีและความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน
- ช่วยให้รอดชีวิตในระยะยาว: การสะสมแอสตาแซนทินทำให้สาหร่ายสามารถทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายได้นานขึ้น เมื่อสภาพแวดล้อมกลับมาเป็นปกติ ถุงซิสต์สีแดงก็จะกลับมาเป็นเซลล์สีเขียวที่เคลื่อนที่ได้อีกครั้ง ดังนั้น เพื่อให้ได้สารแอสตาแซนทินผู้เชี่ยวชาญจะทำการกระตุ้นให้มันอยู่ในระยะสีแดงและเก็บเกี่ยวแอสตาแซนทินในระยะนี้
สารแอสตาแซนทินมีประโยชน์ต่อสุขภาพ
ในฐานะแคโรทีนอยด์ (Carotenoids) สารแอสตาแซนทิน เป็นสารสีที่ละลายในไขมันและมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลังมาก มีบทบาทในการปกป้องเซลล์ของคุณจากอนุมูลอิสระและความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน นอกจากนี้ยังมีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เช่น
การเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน : โดยช่วยกระตุ้นการทำงานของ เม็ดเลือดขาว (T-cells) และ เซลล์เพชฌฆาตธรรมชาติ (NK cells)
ลดการอักเสบ : นอกจากจะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันแล้ว แอสตาแซนทินยังอาจช่วยลดการอักเสบได้อีกด้วย มันจะออกฤทธิ์ต่อต้าน ออกซิเจนที่ทำปฏิกิริยา(ROS:reactive oxygen species) เพื่อลดโปรตีนที่เป็นสาเหตุของโรคอักเสบต่าง ๆ เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์, โรคหัวใจ และโรคเบาหวาน เป็นต้น
ลดการอักเสบ : นอกจากจะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันแล้ว แอสตาแซนทินยังอาจช่วยลดการอักเสบได้อีกด้วย มันจะออกฤทธิ์ต่อต้าน ออกซิเจนที่ทำปฏิกิริยา(ROS:reactive oxygen species) เพื่อลดโปรตีนที่เป็นสาเหตุของโรคอักเสบต่าง ๆ เช่น โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์, โรคหัวใจ และโรคเบาหวาน เป็นต้น
การปกป้องผิวจากอันตรายของรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) : การทานอาหารเสริมหรืออาหารที่อุดมด้วยแอสตาแซนทินอาจช่วยปกป้องผิวของคุณจากอันตรายของรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ได้เช่นกัน เนื่องจากแอสตาแซนทินจะเข้าไปสะสมอยู่ในชั้นหนังกำพร้า (epidermis) และชั้นหนังแท้ (dermis) ของผิวหนัง ซึ่งจะช่วยป้องกันรังสี UV ไม่ให้ทะลุผ่านเข้าไปทำลายผิว และยังช่วยลดความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้วได้อีกด้วย
การบำรุงสุขภาพสมอง : โดยช่วยลดความเสี่ยงของโรคเกี่ยวกับความเสื่อมของระบบประสาท แอสตาแซนทินเป็นสารโมเลกุลที่มีขนาดเล็ก ทำให้มันสามารถผ่าน กำแพงกั้นระหว่างเลือดและสมอง (blood-brain barrier) ได้ จึงช่วยปกป้องทั้งสมองและอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย นอกจากนี้ แคโรทีนอยด์ชนิดนี้ยังอาจช่วยป้องกันหรือชะลอการเกิดโรคอัลไซเมอร์และโรคความบกพร่องทางสติปัญญาอื่นๆ ได้ด้วย
ดูแลสุขภาพของหัวใจ : ช่วยลดคอเลสเตอรอล LDLหรือคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี และเพิ่ม คอเลสเตอรอล HDLหรือคอเลสเตอรอลที่ดีได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดความดันโลหิตสูงได้อีกด้วย
การบำรุงสุขภาพสมอง : โดยช่วยลดความเสี่ยงของโรคเกี่ยวกับความเสื่อมของระบบประสาท แอสตาแซนทินเป็นสารโมเลกุลที่มีขนาดเล็ก ทำให้มันสามารถผ่าน กำแพงกั้นระหว่างเลือดและสมอง (blood-brain barrier) ได้ จึงช่วยปกป้องทั้งสมองและอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย นอกจากนี้ แคโรทีนอยด์ชนิดนี้ยังอาจช่วยป้องกันหรือชะลอการเกิดโรคอัลไซเมอร์และโรคความบกพร่องทางสติปัญญาอื่นๆ ได้ด้วย
ดูแลสุขภาพของหัวใจ : ช่วยลดคอเลสเตอรอล LDLหรือคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี และเพิ่ม คอเลสเตอรอล HDLหรือคอเลสเตอรอลที่ดีได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดความดันโลหิตสูงได้อีกด้วย